ความแตกต่างของแพลตฟอร์มระหว่าง MT4 และ MT5:
- มีระบบการซื้อขายที่หลากหลายให้เลือกใช้งาน
- หากเปิดบัญชีประเภท MT4 จะต้องใช้แพลตฟอร์ม MT4
- หากเปิดบัญชีประเภท MT5 จะต้องใช้แพลตฟอร์ม MT5
- เวลาทำการของโปรแกรมซื้อขายจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการสภาพคล่องแต่ละราย อย่างไรก็ตาม เวลาตลาดเปิดและปิดในประเทศไทยยังคงเหมือนเดิม ดังนั้นการซื้อขายจะอ้างอิงตามราคาบนแพลตฟอร์มที่เลือกใช้เท่านั้น
- แพลตฟอร์ม MT5 มีดีไซน์ที่ทันสมัยกว่า และมีฟีเจอร์แสดงค่าเปอร์เซ็นต์ของสเปรด ซึ่งบ่งบอกถึงเปอร์เซ็นต์ของตลาดที่กำลังปรับตัวขึ้นหรือลงในขณะนั้น คล้ายกับตลาดหุ้นที่แอปพลิเคชันซื้อขายสามารถแสดงข้อมูลได้
- แพลตฟอร์ม MT5 สามารถเลือกใช้กรอบเวลา (Time Frame – TF) ได้ถึง 21 รูปแบบ (ทั้งค่าเริ่มต้นและแบบกำหนดเอง) ในขณะที่แพลตฟอร์ม MT4 มีเพียง 9 รูปแบบ (เฉพาะค่าเริ่มต้นเท่านั้น)
- แพลตฟอร์ม MT4 รองรับคำสั่งซื้อขายล่วงหน้า (Pending Order) 6 ประเภท ได้แก่:
Buy Stop | Sell Stop |
Buy Limit | Sell Limit |
Take Profit | Stop Loss |
มีคำสั่งซื้อที่รอดำเนินการเพิ่มเติมอีกสองประเภทบนแพลตฟอร์ม MT5:
Buy Stop | Sell Stop |
Buy Limit | Sell Limit |
Take Profit | Stop Loss |
Buy stop limit | Sell stop limit |
อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้แพลตฟอร์มขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้ใช้ ความชอบในการซื้อขาย และข้อกำหนดเฉพาะ เช่น ฟีเจอร์ที่ต้องการ เครื่องมือวิเคราะห์ และประสบการณ์การซื้อขายโดยรวมที่มองหาในแพลตฟอร์ม